[x] ปิดหน้าต่างนี้
Home
ประวัติสำนักงาน
ภารกิจ
ปฏิทินปฏิบัติการ
Webboard
สถานศึกษา
e-mail
บุคลากร/โทรศัพท์
ผังสำนักงาน
เข้าระบบ
เนื้อหา :
บทความสาระน่ารู้
หมวดหมู่ :
บทความทั่วไป
หัวข้อเรื่อง :
ช็อคโกแลต ขนมหวานแห่งเทพเจ้าและวันวาเลนไทน์
พฤหัสบดี ที่ 6 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557
คะแนน vote :
46
ช็อคโกแลต ขนมหวานแห่งเทพเจ้าและวันวาเลนไทน์
ช็อคโกแลตแสนอร่อย กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ ที่เคียงข้างไปกับ ดอกกุหลาบช่อโต สำหรับเป็น
ของขวัญวันวาเลนไทน์ (Valentine''s Day)
จากคนรักสู่คนรักนั้น มีความเป็นมาอย่างไร ประวัติยาวไกลหลายหมื่นลี้ค่ะ มีมานานมากแล้ว ถ้าเปรียบเทียบแบบไทยๆ เราก็คงเรียกว่า ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาโน่นเลยแหละค่ะ "
ช็อคโกแลต
" ค้นพบครั้งแรกเมื่อ 4000 ปีที่แล้ว ในอาณาจักร
Aztec
และ
Maya
ซึ่งเป็นเครื่องดื่ม ที่ผสมขึ้นมาจากเมล็ดของต้นโกโก้ และเรียกชื่อว่า
Cocoat
ซึ่ง
Emperor Montezuma
นิยามว่าเป็นเครื่องดื่มจากสรวงสวรรค์เลยทีเดียว
เมื่อปี 1528 เป็นปีที่สเปนมีชัยชนะต่ออาณาจักร Aztec และ Maya จึงได้นำ Cocoatl กลับไปยังสเปนด้วยและเรียกชื่อใหม่ว่า cho-co-LAH-tay และในปี 1615 ช็อคโกแลตก็ได้เผยโฉมต่อสังคมของอายรธรรมใหม่ครั้งแรก ในงานสมรสของเชื้อพระวงศ์แห่งฝรั่งเศส และจากนั้นก็จึงแพร่หลายเข้าสู่อังกฤษในเวลาต่อมา
ในปี 1765 ช็อคโกแลตได้เดินทางไกลอีกครั้งไปสู่สหรัฐอเมริกาโดยการ ชักนำเข้าสู่วงการของ John Hanan ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก Dr. James Baker ในด้านการวิจัยและการผลิต ไม่นานโรงงานผลิตช็อคโกแลต ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศอเมริกานั่นเอง
ในช่วงแรกๆ นั้นผู้ที่จะได้ลิ้มรสช็อคโกแลตจะเป็นเพียงผู้สูงศักดิ์หรือ ระดับเศรษฐีเท่านั้นเพราะว่าราคาแพงมากและถือเป็นของหายากชนิดหนึ่ง แต่เมื่อ เข้ามาสู่ยุคอารยธรรมใหม่ มีการปฏิวัติในฝรั่งเศสทำให้ระบบศักดินาล่มสลายลง และช็อคโกแลตก็เข้าถึงประชาชนทั่วไปมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อวิทยาศาสตร์ การแพทย์ค้นพบว่า ช็อคโกแลตสามารถรักษาอาการเกี่ยวกับช่องท้องได้ ทำให้ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายยิ่ง
ขึ้นช่วงแรกนั้นช็อคโกแลตยังไม่ได้มีส่วนประกอบมากมายอย่างที่เราเห็น ในปัจจุบัน ยังคงเป็นเพียงแท่งโกโก้เท่านั้น แต่เมื่อมีการค้นคว้ามากขึ้นก็สามารถ บรรจุส่วนผสมต่างๆ ลงไปได้มากขึ้น เช่น นมผง ครีม คาราเมล หรือ อัลมอนด์ ทำให้ช็อคโกแลตมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมาจนบัดนี้
ปัจจุบันนี้เรายกย่องกันว่า
ประเทศเบลเยี่ยมนั้น เป็นแหล่งผลิตช็อคโกแลต ที่ดีที่สุดในโลก
คนที่ทำหน้าที่ในการผลิตช็อคโกแลตนั้น ได้รับการยกย่องว่า เป็นช่างฝีมือประจำชาติเลยทีเดียว น่ายินดีนะคะนอกจากจะเป็นประเทศที่ ผลิตระฆังได้ดีที่สุด (เบลล์=ระฆัง) แล้ว ก็ยังผลิตช็อคโกแลตได้เป็นเยี่ยมอีกอย่าง หนึ่งด้วย
จากตำนานของช็อคโกแลตที่นาวนานหลายพันปีนั้น ยังไม่เห็นว่าจะมีส่วนใด มาเกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันสิ้นชีวิตของ
St. Valentine
ผู้ที่ศรัทธา ในความรักมากกว่าสงครามเลย เพราะก่อนที่ท่านจะสิ้นลมหายใจ ท่านก็ได้มอบเพียง การ์ดใบเดียวพร้อมคำว่า "
Love From Your Valentine
" เท่านั้นเอง ไม่มีช็อคโกแลตแนบไปด้วยแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นได้ว่า เนื่องจาก ในยุคโรมันที่นักบุญวาเลนไทน์ได้เสียชีวิตนั้น ช็อคโกแลตยังเป็นของหายากจึงเป็น สิ่งที่มีค่าที่คนรักจะมอบแทนใจให้กันได้ จึงส่งไปพร้อมการ์ดและดอกไม้ ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็ได้ และอาจจะรวมไปถึง การที่ช็อคโกแลตเคยเป็นสัญลักษณ์ของ เสรีภาพ มิตรภาพ และสันติภาพ ในช่วงที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วยก็ได้
แม้หลายคนจะกังวลว่า "กินช็อคโกแลตวันนี้ จะอ้วนพีในวันหน้า" ก็ยังไม่วาย เผลอ เห็นใกล้มือเมื่อไหร่ก็คว้าเข้าปากง่ายๆ แบบลืมตัวอยู่เสมอๆ บางคนก็บอกว่า ช็อคโกแลตสามารถเพิ่มพลังทางเพศได้ ก็อาจจะเป็นได้ เพราะน้ำตาลในช็อคโกแลต ไปกระตุ้นการทำงานของก้านสมองที่ควบคุม Basic Instinct ของมนุษย์ ให้ทำงานได้ก้าวหน้ากว่าสมองจริงๆ ก็ได้นะคะ หวังว่าข่าวนี้จะไม่แพร่ ออกไปก่อนวาเลนไทน์หลายวันนัก เกรงเหลือเกินค่ะว่า ช็อคโกแลตจะขาดตลาด หนุ่มสาวหลายคู่อาจจะพลาดการให้ช็อคโกแลตกันในวันวาเลนไทน์ เพราะหาก ช็อคโกแลตทำหน้าที่ได้คล้ายไวอากร้าแต่ราคามหาชนอย่างนี้มีหวังเกิดการกักตุน กันแน่นอนเลยค่ะ
วาเลนไทน์ปีนี้หลายคน คงยังนึกไม่ออกเลยว่า จะมีใครกรุณาส่ง
ของขวัญวาเลนไทน์
ประเภท
ดอกไม้
กับ
ช็อคโกแลต
มาให้บ้าง แต่จะกระซิบอะไรบางอย่างกับคนที่กำลังกังวลว่า อย่ารอให้ใครส่งมา เราโทรไปสั่งเองดีกว่าแล้วลงชื่อใครก็ได้ ที่เราคิดว่าอยากให้เป็นคนส่ง แล้วให้คนส่งของขวัญนั้นมาถึงเราในช่วงเวลาที่มีคน อยู่เยอะๆ นะคะ จะได้ไม่น้อยหน้าคนอื่น แต่อย่าลืมกำชับกับคนส่งนะคะว่าไม่ให้เขา มาเก็บสตางค์ค่าดอกไม้ในเวลานั้นด้วย เดี๋ยวแผนจะเสียหมด แทนที่จะได้หน้าบาน เป็นจานเชิงก็อาจจะกลายเป็นขายหน้าห้าเบี้ยหกบาทขึ้นมา แล้วจะหาว่าไม่เตือนให้รอบคอบนะเจ้าคะ
ที่มา: http://www.thaifooddb.com/
เข้าชม : 2218
บทความทั่วไป 5 อันดับล่าสุด
มนุษย์เงินเดือน ลดหย่อนภาษีจากอะไรได้บ้าง..?
26 / ต.ค. / 2558
เสื้อผ้าหมา-แมว ธุรกิจโตตามตลาดสัตว์เลี้ยง
2 / ต.ค. / 2558
รถแบตหมด เปลี่ยนเองได้
20 / ส.ค. / 2558
8 วิธีสวยด้วยน้ำผึ้ง
13 / ก.ค. / 2558
7 กลยุทธ์เก็บเงิน สำหรับคนโสดสุดๆ
25 / มิ.ย. / 2558
Powered by
MAXSITE 1.10
Modify by นิกร เกษโกมล Version 2.05HD
Update by กลุ่มยุทธศาสตร์และการพัฒนา